Header

โรคมือ เท้า ปาก คืออะไร โรคระบาดยอดฮิต

09 มกราคม 2568

โรคมือ เท้า ปาก คืออะไร โรคระบาดยอดฮิต

“โรคมือ เท้า ปาก” โรคยอดฮิตในเด็กที่พบทุกปี โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มเข้าหน้าฝนเป็นช่วงที่มีอัตราการระบาดของโรคนี้สูง หากคุณพ่อ คุณแม่กังวลว่าโรคนี้จะเกิดขึ้นกับลูกๆ ของตนหรือเมื่อเกิดขึ้นแล้วควรจะทำอย่างไร มีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคมือ เท้า ปากได้หรือไม่? บทความนี้จะมาตอบข้อสงสัยกัน!
 

ทำความรู้จักกับโรคมือ เท้า ปาก

     โรคมือ เท้า ปาก สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย และจากการสัมผัสทางอ้อมผ่านของเล่น มือผู้เลี้ยงดู น้ำ และอาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค โดยส่วนใหญ่มักพบการแพร่ระบาดในโรงเรียนอนุบาล และสถานรับเลี้ยงเด็ก โรคมือ เท้า ปาก สามารถเป็นซ้ำได้อีก ถ้าได้รับเชื้อไวรัสคนละสายพันธุ์กับที่เคยเกิด เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นของผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์หนึ่งๆ อาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสสายพันธุ์อื่นๆ ได้ แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มย่อยของไวรัสเอนเทอโรเช่นเดียวกันก็ตาม


 

การรักษาโรค

     ปัจจุบันการรักษาโรคมือ เท้า ปาก เป็นการรักษาตามอาการของโรคที่พบในผู้ป่วยเช่น การให้รับประทานยาแก้ไข้ ในรายที่เพลียมากแพทย์อาจให้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลและให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด ร่วมกับให้ยาลดไข้แก้ปวด ยารักษาแผลในปาก และให้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่จำเป็น ร่วมกับการเฝ้าระวังสังเกตอาการของภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
 

โรคมือ เท้า ปาก ติดต่ออย่างไร

      เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและถูกนำไปยังตับเพื่อทำการย่อยสลาย แต่หากดื่มในปริมาณมาก ตับจะไม่สามารถทำงานได้ทัน ทำให้แอลกอฮอล์สะสมอยู่ในเลือดและส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น
 

อาการของโรคมือ เท้า ปาก

  • ในเด็กจะมีไข้สูง 3-4 วันและเริ่มมีตุ่มน้ำใส (Vesicle) ขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ปาก ลิ้น เหงือก ในวันแรกของไข้ มีอาการเจ็บร่วมด้วย ทำให้ทานอาหารไม่ได้ มีน้ำลายไหล และอาจมีผื่นขึ้นตามขาทั้ง 2 ข้าง อาการมักจะหายเองภายใน 5-7 วัน
  • ในผู้ใหญ่ ลักษณะอาการจะแตกต่างจากเด็ก คือ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว แผลในปาก อาจมีผื่นขึ้นหรือไม่มีก็ได้ ส่วนใหญ่ไข้จะลดลงและหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ แผลในปากจะดีขึ้นเอง ตุ่มน้ำที่มือหรือเท้าจะค่อยๆ หายไป
  • สำหรับผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก EV71 ที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงได้แก่ อาการแทรกซ้อนทางระบบประสาท เช่น ชัก ซึม อาเจียน เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ อัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพลัน กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปอดบวมน้ำเฉียบพลันหรือบางรายที่รอดชีวิต แต่ความรุนแรงของโรคอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดความผิดปกติทางระบบประสาทตามมาได้
     

การป้องกันโรคมือ เท้า ปาก

  1. ผู้ปกครองควรคัดกรองอาการของเด็กก่อนไปเรียน หากเด็กไม่สบายหรือมีไข้ ควรพาไปพบแพทย์และให้พักอยู่ที่บ้าน
  2. ให้เด็กสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ซึ่งเชื้อโรคมือ เท้า ปาก จะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือเมื่อผู้ป่วยไปจับของเล่นของใช้ จะทำให้เชื้อกระจายสู่ผู้อื่นได้ หากลดการสัมผัสจะสามารถป้องกันการรับเชื้อได้
  3. ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังเล่นของเล่น เพื่อลดการสะสมของเชื้อบนฝ่ามือและอธิบายและเตือนว่าไม่ควรเอานิ้ว ของเล่น หรือวัตถุอื่น ๆ เข้าปาก
  4. หมั่นทำความสะอาดของใช้ ของเล่นและพื้นที่ที่เด็กใช้ร่วมกันเป็นประจำ เพื่อลดเชื้อโรคที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม
  5. โรคมือเท้าปากสามารถป้องกันและลดเสี่ยงได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นวัคซีนที่ผลิตมาเพื่อต้านเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 โดยเฉพาะ เพราะเป็นเชื้อตัวสำคัญที่อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงได้ สำหรับอายุที่แนะนำในการฉีดวัคซีนมือเท้าปาก คือ เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน - 5 ปี
  6. สำหรับสถานศึกษาควรจัดให้มีพื้นที่ในการเข้าแถวทำกิจกรรม หรือเล่นเป็นกลุ่มย่อย จำนวน 5-6 คน มีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร และหากพบเด็กป่วยขอให้แยกออกจากเด็กปกติและแจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน หากอาการไม่ดีขึ้นให้พาไปพบแพทย์โดยเร็ว แยกของใช้ส่วนตัวเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ และไม่ควรคลุกคลีกับคนอื่น ๆ ในครอบครัว
  7. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปาก


 

 


 

 

 



แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์