การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาด อันตรายถึงชีวิต
26 ธันวาคม 2567

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นกิจกรรมสันทนาการที่พบเห็นได้ทั่วไปในสังคม แต่หากบริโภคในปริมาณมากเกินไป อาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพและถึงขั้นเสียชีวิตได้ ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ (alcohol poisoning) คือภาวะที่ร่างกายได้รับแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินกว่าที่ตับจะสามารถกำจัดได้ทัน ทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานผิดปกติ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
- ปริมาณแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น
- ความเร็วในการดื่ม: การดื่มอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วขึ้น
- น้ำหนักตัว: ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยจะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้นเร็วกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก
- เพศ: ผู้หญิงโดยทั่วไปจะมีปริมาณน้ำในร่างกายน้อยกว่าผู้ชาย ทำให้แอลกอฮอล์กระจายตัวได้น้อยกว่า จึงมีผลกระทบต่อร่างกายมากกว่า
- การดื่มร่วมกับยาอื่นๆ: การดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ
กลไกการเกิด
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและถูกนำไปยังตับเพื่อทำการย่อยสลาย แต่หากดื่มในปริมาณมาก ตับจะไม่สามารถทำงานได้ทัน ทำให้แอลกอฮอล์สะสมอยู่ในเลือดและส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น
- ระบบประสาท: สับสน มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน ชัก หมดสติ
- ระบบหายใจ: หายใจช้าลง หายใจลำบาก
- ระบบหัวใจ: หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตต่ำ
- อุณหภูมิร่างกาย: อุณหภูมิร่างกายลดลง
อาการของภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ
- ระยะเริ่มต้น: รู้สึกมึนงง คลื่นไส้ อาเจียน พูดลำบาก
- ระยะกลาง: สับสน ชัก หมดสติ
- ระยะรุนแรง: หายใจช้าลง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตต่ำ อาจเสียชีวิตได้
ภาวะแทรกซ้อน
- การเสียชีวิต: ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษที่รุนแรงอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
- ความเสียหายต่ออวัยวะภายใน: แอลกอฮอล์อาจทำลายเซลล์สมอง ตับ และอวัยวะอื่นๆ
- ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท: อาจเกิดความเสียหายถาวรต่อระบบประสาท เช่น ความจำเสื่อม
การป้องกันและรักษา
- หลีกเลี่ยงการดื่ม: วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษคือการหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
- ดื่มอย่างมีสติ: หากต้องดื่ม ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ และดื่มช้าๆ
- ไม่ขับรถหลังดื่ม: การดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุ
- หากมีอาการผิดปกติ: ควรรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที