ขับถ่ายผิดปกติ สัญญาณเตือนมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
18 กุมภาพันธ์ 2568

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ หากตรวจพบและรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะเพิ่มโอกาสในการรักษาหายขาดได้อย่างมาก การสังเกตความผิดปกติในการขับถ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักคืออะไร?
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติในเยื่อบุลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก เซลล์เหล่านี้จะรวมตัวกันเป็นก้อนเนื้อร้าย และสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้;
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
- อายุ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
- ประวัติครอบครัว หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น
- พฤติกรรมการบริโภค การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เนื้อแดง และอาหารแปรรูปมากเกินไป ทานอาหารที่มีกากใยน้อยเกินไป
- การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
- โรคอ้วน
- โรคทางพันธุกรรม เช่น โรคโพลีโปซิสอะดีโนมาตัสแฟมิเลียล (Familial Adenomatous Polyposis: FAP) และกลุ่มอาการลินช์ (Lynch syndrome)
- โรคอักเสบเรื้อรังของลำไส้ เช่น โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผล (Ulcerative colitis) และโรคโครห์น (Crohn's disease)
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะของโรคและตำแหน่งที่เกิดมะเร็ง อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- การเปลี่ยนแปลงในการขับถ่าย ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจจาระมีขนาดเล็กลง หรือรู้สึกถ่ายไม่สุด
- มีเลือดปนในอุจจาระ อาจเป็นเลือดสดหรือเลือดสีคล้ำ
- ปวดท้องหรือไม่สบายท้อง เช่น ปวดเกร็ง หรือปวดเมื่อย
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- อ่อนเพลีย
- โลหิตจาง
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในแต่ละระยะ
- ระยะที่ 1
- มะเร็งอยู่ในชั้นเยื่อบุลำไส้หรือชั้นใต้เยื่อบุลำไส้
- อาจไม่มีอาการ หรือมีอาการเปลี่ยนแปลงในการขับถ่ายเล็กน้อย
- ระยะที่ 2
- มะเร็งลุกลามไปยังชั้นกล้ามเนื้อของลำไส้หรือชั้นนอกของลำไส้
- เริ่มมีอาการเปลี่ยนแปลงในการขับถ่ายชัดเจนขึ้น มีเลือดปนในอุจจาระ
- ระยะที่ 3
- มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง
- มีอาการปวดท้อง น้ำหนักลด อ่อนเพลีย
- ระยะที่ 4
- มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ ปอด หรือกระดูก
- มีอาการปวดตามอวัยวะที่มะเร็งแพร่กระจายไป
การวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
- การตรวจอุจจาระ เพื่อตรวจหาเลือดที่มองไม่เห็นในอุจจาระ
- การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เป็นการตรวจที่แม่นยำที่สุด โดยแพทย์จะสอดกล้องเข้าไปในลำไส้ใหญ่เพื่อตรวจดูความผิดปกติและตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
- การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ลำไส้ใหญ่ (CT Colonography) เป็นการตรวจโดยใช้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างภาพลำไส้ใหญ่
- การตรวจเลือด เพื่อตรวจหาค่ามะเร็ง (CEA)
การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในแต่ละระยะ
- ระยะที่ 1
- การผ่าตัด: เป็นการรักษาหลักในระยะนี้ โดยตัดส่วนของลำไส้ที่มีมะเร็งออก
- ระยะที่ 2
- การผ่าตัด: ร่วมกับเคมีบำบัด เพื่อลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำ
- ระยะที่ 3
- การผ่าตัด: ร่วมกับเคมีบำบัด และอาจมีการฉายรังสีรักษา
- ระยะที่ 4
- เคมีบำบัด: เพื่อควบคุมการแพร่กระจายและบรรเทาอาการ
- การรักษาแบบจำเพาะเจาะจง: ใช้ยาที่ออกฤทธิ์จำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง
- การรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัด : เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับมะเร็ง
- การรักษาแบบประคับประคอง : เป็นการรักษาตามอาการของผู้ป่วย
การป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
- ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และธัญพืช
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ควบคุมน้ำหนัก
- เลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์
การดูแลตนเองเมื่อเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- จัดการความเครียด
มีคำถามเกี่ยวกับ มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ?
สอบถามฟรี รับคำตอบได้ทันที ทางช่องทาง LINE เพื่อความสบายใจของคุณ
ช่องทางการซื้อแพ็กเกจและโปรโมชั่น
"มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติในเยื่อบุลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก เซลล์เหล่านี้จะรวมตัวกันเป็นก้อนเนื้อร้าย หากมีอาการสงสัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
สามารถเข้ารับการตรวจและรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางได้ที่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี
โทร 05-604-9899 "ไม่ต้องห่วง ให้เราช่วยดูแล"
ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง
แผนกอายุรกรรม
สถานที่
ชั้น 1
เวลาทำการ
ทุกวัน : 07.00-16.00น.
เบอร์ติดต่อ
056-049899 ต่อ 580101