โนโรไวรัส โรคระบาดต้นเหตุ ท้องเสีย ปวดท้อง อาเจียน คลื่นไส้ ในเด็ก

โนโรไวรัส คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง และคลื่นไส้ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ซึ่งมีความรุนแรงกว่าช่วงวัยอื่นๆ
 

ความน่ากลัวของโนโรไวรัส

• ทนทานต่อสภาพแวดล้อม: โนโรไวรัสมีความทนทานต่อความร้อน สารเคมี และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ทำให้สามารถอยู่รอดได้นานในสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกายได้เป็นเวลานาน
• ติดต่อง่าย: การติดเชื้อโนโรไวรัสสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย แม้จะสัมผัสกับเชื้อในปริมาณน้อยก็ตาม เชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางอุจจาระ อาเจียน และละอองฝอยที่เกิดจากการไอหรือจามของผู้ป่วย
• ระบาดได้อย่างรวดเร็ว: โนโรไวรัสสามารถระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล หรือเรือสำราญ
   

อาการของโรคโนโรไวรัส

• อาการทางเดินอาหาร: ท้องเสีย อาเจียน คลื่นไส้ ปวดท้อง
• อาการอื่นๆ: ไข้ต่ำ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย
   

สาเหตุของการติดเชื้อโนโรไวรัส

• การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน: เข่น อารหารทะเลดิบ ผักผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด น้ำดื่มที่ไม่ได้ผ่าการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง
• การสัมผัสกับผู้ป่วย: การสัมผัสกับอุจจาระอาเจียน หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อของผู้ป่วย
• การสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อน: เช่น ราวบันได มือจับประตู
   

ใครบ้างที่เสี่ยงการติดเชื้อโนโรไวรัส

• เด็กเล็ก: เด็กเล็กมีระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง จึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีอาการรุนแรงได้ง่าย
• ผู้สูงอายุ: ผู้สูงอายุมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดี
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว: ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคไตวาย มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
   

การป้องกันโรคโนโรไวรัส

• ล้างมือบ่อยๆ: ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หลังการเข้าห้องน้ำ และหลังสัมผัสกับผู้ป่วย
• ปรุงอาหารให้สุก: อาหารต้องปรุงให้สุกก่อนรับประทาน ผักผลไม้ต้องล้างให้สะอาด
• ดื่มน้ำสะอาด: หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ หรือน้ำดื่มที่ไม่ได้มาตรฐาน
• ทำความสะอาดบริเวณที่ปนเปื้อน: ทำความสะอาดพื้นผิวที่ปนเปื้อนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย: หากมีคนในบ้านป่วย ควรแยกของใช้ส่วนตัว และทำความสะอาดบริเวณที่ผู้ป่วยใช้บ่อย
• * ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคโนโรไวรัส
   

สาเหตุของการติดเชื้อโนโรไวรัส

• การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน: เข่น อารหารทะเลดิบ ผักผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด น้ำดื่มที่ไม่ได้ผ่าการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง
• การสัมผัสกับผู้ป่วย: การสัมผัสกับอุจจาระอาเจียน หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อของผู้ป่วย
• การสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อน: เช่น ราวบันได มือจับประตู
   

“ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะสำหรับรักษาโรคโนโรไวรัส การรักษาจะเน้นไปที่การบรรเทาอาการ เช่น การดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป การรับประทานอาหารอ่อน และพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการท้องเสีย อาเจียน คลื่นไส้ ควรรีบพบแพทย์ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง  โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี พร้อมดูแล ติดต่อ 056 049 899 ”

 

ขอคำปรึกษา คลิก

คำเตือน: โรคโนโรไวรัสสามารถทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในปริมาณมาก หากอาการรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที